Sashihara Rino

คุณยายพึมพำออกมาเบาๆ

ความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ไม่มีทาง”

ชั้นน่ะไม่มี “เรื่องเล่าดีๆ” เหมือนกับของทุกคนเลย ขอโทษนะ ทำยังไงถึงจะมีเรื่องประทับใจได้ล่ะเนี่ย?

สำหรับชั้นแล้วไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงไม่มีเรื่องประทับใจเลย

คิดกันอยู่สินะว่าทำไมเป็นแบบนี้? (หัวเราะ)

ไม่ว่าจะงานหรืออะไรก็ตามแต่ ถ้าตอนนั้นสนุกได้แล้วล่ะก็ ก็ถือว่าโอเคแล้ว ชั้นใช้ชีวิตแต่ละวันโดยคิดแบบนั้น อย่างเช่นตอนอัดรายการ แน่นอนว่าจะต้องมีความรู้สึกที่ว่าเรื่องนี้ต้องทำออกมาให้ดี ถึงจะแคร์ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น แต่ว่าเหนืออื่นใด ตอนอัดรายการนั้นสนุกมากน้อยขนาดไหนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

ปีก่อน ชั้นต้องย้ายจาก AKB48 ไป HKT48 มีหลายคนที่บอกกับชั้นว่า “ลำบากแย่เลยเนอะ” หรือ “เป็นปัญหาใหญ่เลยสินะ” พอได้ยินแบบนั้นชั้นก็ตอบกลับไปว่า “ย้ายมาได้สัปดาห์นึงแล้ว สนุกดีค่ะ” ก็มันสนุกจริงๆ นี่หน่า

เมมเบอร์ก็ยังเด็กกันอยู่น่ารักสดใสกันทั้งนั้น แฟนๆ ที่ฮากาตะเองก็มีความร้อนแรงกันมาก ยิ่งกว่าสิ่งไหน ชั้นเองไม่ว่าในสถานการณ์ใดก็คิดว่า “ก็เข้ามาแล้วทำตัวให้สนุกดีกว่า กับเมมเบอร์ก็อยากจะสนุกด้วย” เพื่อการนั้นแล้วสิ่งสำคัญคืออะไรน่ะเหรอ?

ไม่ใช่การร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างแน่นอน ถ้าหากว่าพยายามโดยมีรอยยิ้มที่คิดอยากจะสนุกสนานแล้วล่ะก็ จะต้องสนุกขึ้นอย่างแน่นอน

เพราะเอาแต่สนุกสนานเท่านั้น ทำให้มุมมองสามารถเปลี่ยนไปได้ เติบโตขึ้นหน่อยหรือเปล่าน้า?

คิดว่าเข้มแข็งขึ้นนะคะ

เกินคาดเลยนะ ชั้นที่เป็นคนมองโลกในแง่ดีเนี่ย ทั้งๆ ที่สมัยก่อนเป็นพวกติดลบ หรือมีช่วงที่ถูกเรียกว่าคนไม่ได้เรื่องด้วย (หัวเราะ)

เพราะงั้น ชั้นที่ไม่ได้เป็นคนน่ารักอะไร ตอนนี้กลับได้รับโอกาสให้ทำงานแบบนี้ คิดว่าเป็นเพราะโชคช่วยค่ะ จังหวะเวลาก็บังเอิญพอเหมาะพอดี หากว่าชั้นเข้ามาในฐานะเมมเบอร์รุ่นแรกของ AKB48 แล้วล่ะก็ ป่านนี้คงออกไปแล้วล่ะ คงจะทนกับความลำบากของการเป็นรุ่นแรกๆ ไม่ไหว ทั้งไม่ถูกจับตามองจากสังคม ชื่อเสียงก็แทบจะไม่มี กลับกันหากเข้ามาในช่วงรุ่นที่ 9 เป็นต้นมาแล้วล่ะก็ คงไม่ได้เป็นแบบทุกวันนี้หรอก ชั้นเข้ามาพอดีในตอนที่ AKB48 กำลังจะโด่งดัง ช่างโชคดีจริงๆ รุ่นที่ 5 นี่ดีจริงๆ (หัวเราะ)

นิสัยของชั้นแบบนี้ อืมมมมม เหมือนใครน่ะเหรอ บางทีคงไม่เหมือนใครเลยมั้ง…. แต่ว่า การผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยการมองโลกในแง่ดี สามารถสนุกสนานได้ หากจะให้พูดให้ได้แล้วก็คงได้รับมาจากคุณยายล่ะมั้งคะ

ตอนที่ชั้นเข้า AKB48 คนที่คัดค้านอยู่แค่คนเดียวก็คุณยายนี่แหละค่ะ

ก็ตอนนั้น AKB48 ยังไม่มีชื่อเสียงเลย เข้ากลุ่มไอดอลน่าสงสัยแบบนี้จะไม่เป็นไรเหรอ พอชั้นพยายามโน้มน้าวไปว่า “อากิโมโตะ ยาสุชิ ที่เป็นคนแต่งเพลง “Kawa no Nagare no youni” เป็นคนโปรดิวซ์นะ” ทั้งๆ ที่น่าจะเบาใจขึ้นหน่อย แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่ายังไม่เห็นด้วยอยู่ดี ชั้นเองก็เลยมาโตเกียวโดยที่ยังไม่ได้กล่าวคำอำลาด้วยซ้ำ

วันนึงหลังจากขึ้นมาเมืองหลวงได้เกือบปี ก็มีกล่องถูกส่งมาจากบ้านเกิดที่โออิตะ พอลองเปิดดู ก็มีทั้งสาหร่ายโรยข้าว ลูกพลับตากแห้ง น้ำผลไม้ คุกกี้กระป๋องอย่างดี ใส่เอาไว้อยู่ จดหมายที่ใส่อยู่ด้วยเป็นลายมือของคุณยายเขียนเอาไว้ว่า “ส่งของชอบของริโนะจังมาให้ พยายามเข้านะ” นั่นทำให้ชั้นรู้สึกตัวว่าของพวกนี้ ล้วนแต่เป็นของที่ชั้นเคยพูดว่าอร่อยตอนที่ไปบ้านคุณยายก่อนหน้านี้ อย่างลูกพลับตากแห้งนี่ คงจะเป็นตอนประถมล่ะมั้งที่พูดว่าอร่อย

เป็นเรื่องสมัยก่อนขนาดนั้นแล้วยังอุตส่าห์จำได้แล้วก็ส่งมาให้แบบนี้อีก ตอนนี้กำลังเชียร์อยู่นะ ชั้นกัดลูกพลับตากแห้งที่ให้กลิ่นของบ้านนอก “อืม ตอนนี้ก็ไม่ได้ชอบลูกพลับตากแห้งแล้ว…. แต่ก็ขอบคุณนะ”

แม้จะมีเรื่องแบบนั้นแล้ว ชั้นก็ไม่ได้คิดเรื่องกลับบ้านเลย แม้จะแค่โทรศัพท์ก็ไม่ได้ทำ แต่ละวันผ่านไปอย่างยุ่งเหยิง แล้วเมื่อวันเวลาผ่านไปกว่า 2 ปีครึ่ง ตอนที่กลับบ้านเกิดไปเพราะต้องถ่ายรูปลงนิตยสาร

พอชั้นวางของที่บ้านของตัวเองแล้ว ก็รีบตรงไปบ้านของคุณยายทันที พอชั้นได้เห็นหน้าของคุณยายที่คิดถึงแล้ว ยังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ น้ำตาก็ไหลออกมา พอเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น ประมาณครึ่งหนึ่งของชั้นวางของโชว์ถูกใช้เป็นที่วางนิตยสารที่ชั้นได้ลงตีพิมพ์ และ DVD ตั้งเรียงรายไว้อย่างกับเป็นถ้วยรางวัลเลย

ตอนนั้น อาจารย์อากิโมโตะ (ยาสุชิ) อุตส่าห์คิดคำว่า “ซาชิโกะเรียคุ” (*พลังของซาชิโกะ) เพื่อแสดงความรู้สึกต่อชั้นที่อยู่ใน AKB48 “ซาชิโกะที่ไม่เอาไหน ไม่มีทั้งความน่ารักในแบบที่ไอดอลเค้ามีกัน ไม่มีทั้งความมุ่งมั่น แต่ว่าเธอก็ยังทำความฝันให้เป็นจริงได้ เพราะงั้นจึงเป็นตัวตนที่มอบความเข้มแข็งให้กับผม จึงขอตั้งชื่อให้กับพลังที่สร้างผลกระทบนี้ว่าซาชิโกะเรียคุ”

เป็นคำชมที่ออกจะรู้สึกแปลกๆ แต่ก็รู้สึกขอบคุณค่ะ แต่มีอย่างนึงที่รู้สึกคาใจก็คงเรื่อง “ไม่ได้มีความน่ารักสุดยอด” (หัวเราะ) ก็แอบคิดอยู่เหมือนกัน ชั้นอยู่ใน AKB48 ที่กำลังโด่งดังอยู่ในตอนนี้ แล้วก็แค่น่ารักนิดหน่อย ยิ่งกว่านั้นที่นี่คือโออิตะ บ้านของคุณยาย แม้แต่ชั้นที่ถูกเรียกว่าคนไม่ได้เรื่อง หากว่ามีรูปของชั้นตั้งเรียงอยู่ที่ชั้นวางนี้ได้แล้วล่ะก็ รู้สึกฮึดสู้ขึ้นมาหน่อย

ชั้นที่รู้สึกสบายใจขึ้นมาแล้ว ก็นั่งดูดีวีดีคอนเสิร์ตของ AKB48 กัน 2 คนกับคุณยาย ก่อนหน้านี้มีแค่เครื่องเล่นวีดีโอเท่านั้น แต่เพื่อที่จะดูชั้นก็เลยไปซื้อเครื่องเล่นดีวีดีมา

ระหว่างที่ดูคอนเสิร์ตอยู่คุณยายก็พูดว่า “อัตจัง (มาเอดะ อัตสึโกะ) ดูมีออร่าเนอะ” หรือ “ริเอะจัง (คิตะฮาระ ริเอะ) น่ารักขึ้นเรื่อยๆ เลย” เมมเบอร์คนอื่นนอกจากชั้นแล้วก็อุตส่าห์จำได้ คุณยายที่คิดถึงเรื่องชั้นขนาดนี้….. ขอโทษนะที่จนกระทั่งตอนนี้ไม่เคยติดต่อมาเลย เป็นเรื่องที่ชั้นคิดอยู่ในใจในเวลานั้น แล้วคุณยายก็พึมพำประมาณว่า “เอ๋”

“เด็กคนนี้ขี้เหร่จัง อยู่ในนี้แล้วดูไม่เด่นเลย”

คุณยายคะ นั่นมันหนูค่าาาา!?

ไม่มีทางที่จะไม่รู้ว่านั้นน่ะชั้น ยิ่งกว่านั้นที่ตั้งใจพูดว่าขี้เหร่ด้วย เรื่องที่คุณยายชอบล้อเล่นมาตั้งแต่สมัยก่อน มั่นใจว่านี่ตั้งใจพูดแน่นอน พอคิดดูอีกที ใบหน้าของคุณยายตอนที่พูดว่า “ก็เป็นหลานสาวของยายหนิ” ด้วยอารมณ์ล้อเล่นแบบนั้น พอเห็นปุ๊ป อ๊ะ นี่พูดออกมาจากใจจริงแน่เลย (หัวเราะ)

เพื่อที่จะกลบเกลื่อนเรื่องนั้น จู่ๆ คุณยายก็หัวเราะ “แหะแหะ” ออกมา ชั้นเองก็หัวเราะ “หึหึ” ออกมาอย่างหมดแรง จากนั้นพอหันไปดูที่ชั้นโชว์เห็นของที่ตั้งอยู่เป็นซาชิฮาระ ริโนะที่ทำท่าทางแบบไอดอล ก็อดไม่ไหวหัวเราะกันยกใหญ่

พอคุณยายได้ฟังเรื่องของ “ซาชิโกะเรียคุ” ที่อาจารย์อากิโมโตะพูดแล้ว คุณยายก็บอกว่า “ดีจังนะ ที่ไม่เด่น” ชั้นก็เลยว่า “ก็เหมือนยายน่ะแหละ” ถึงจะเป็นการกลับบ้านเกิดแค่แป๊ปเดียวแต่ว่าคืนนั้นก็สนุกดี ขอบคุณนะคะคุณยาย

อย่างที่ว่ามา เป็นการยอมรับของคุณยายที่มีต่อซาชิฮาระ ริโนะที่ “ไม่ได้น่ารักสุดยอด” (หัวเราะ) ไม่สิ ต้องบอกว่าชอบเลยแหละ ตอนนี้น่ะนะ  แล้วในงานจับมือเมื่อวันก่อนมีแฟนๆ พูดกับชั้นว่า “เจอเรื่องแย่ๆ มาล่ะ” ชั้นก็เลยปลอบไปว่า “แหม ขนาดคนแบบชั้นยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เลย เพราะงั้นพยายามเข้านะ” ต่อจากนั้น “นั่นสินะ จะลองพยายามดู” ถ้าหากว่าแม้แต่คนอย่างชั้นยังสามารถมอบความกล้าให้กับคนอื่นได้ล่ะก็ คงไม่มีเรื่องอะไรจะวิเศษเท่านี้แล้ว สำหรับเด็กผู้หญิงทั้งหลายที่มุ่งมั่นจะเป็นไอดอล เมื่อได้เห็นชั้นแล้วก็อยากจะให้มีความหวังขึ้นมา การที่ชั้นสามารถเข้า AKB48 มาได้ สิ่งที่เป็นตัวตัดสินไม่ใช่ความน่ารักเป็นพิเศษหรอก แต่เป็นการลงมือทำเพื่อความฝันโดยไม่ยอมแพ้ต่างหาก มีแค่สิ่งนี้เท่านั้นที่ชั้นจะสามารถพูดได้ล่ะนะ (หัวเราะ)

เป็นเพราะคุณยายทำให้ชั้นสามารถปล่อยวางหลายๆ เรื่อง และสามารถเดินหน้าต่อไปได้ คุณยายขอบคุณสำหรับหลายๆ สิ่งนะคะ จากนี้ต่อไปก็ช่วยเป็นแรงใจให้ชั้นด้วยนะคะ

5 thoughts on “Sashihara Rino”

  1. ขอบคุณที่แปลส่วนของริโนะจังให้อ่านนะคะ
    ซึ้งมากๆ

    Like

Leave a comment